ไทใหญ่ หรือ ฉาน (ไทใหญ่:
ไต๊, พม่า; IPA: จีนตัวย่อ: 掸族; พินอิน: Shàn zú) คือกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลภาษาไท-กะได ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อันดับสองของพม่า ส่วนมากอาศัยในรัฐฉาน ประเทศพม่าและบางส่วนอาศัยอยู่บริเวณดอยไตแลง ชายแดนประเทศไทย-ประเทศพม่า คนไทใหญ่ในประเทศพม่ามีประมาณ 3 หรือ 4 ล้านคน แต่มีไทใหญ่หลายแสนคน ที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยเพื่อหนีปัญหาทางการเมืองและการหางาน ตามภาษาของเขาเองจะเรียกตัวเอง ไต หรือ ไต (ตามสำเนียงไทย) พี่น้องไตในพม่ามีหลายกลุ่ม เช่น ไตขืน ไตแหลง ไตคัมตี ไตลื้อ และ ไตมาว แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ไตโหลง ไต = ไท และ โหลง (หลวง) = ใหญ่ ซึ่งคนไทยเรียก ไทใหญ่ เหตุฉะนั้นจะเห็นได้ว่าภาษาไต และภาษาไทยคล้ายกันบ้างแต่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีคำเรียกไทใหญ่อีกอย่างว่า เงี้ยว แต่เป็นคำที่ไม่สุภาพในการเอ่ยถึงชาวไทใหญ่ ชาวไทใหญ่ถือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นวันชาติ
เมืองหลวงของรัฐฉานคือ ตองยี ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆมีประชากร
ประมาณ 150,000 คน ส่วนเมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ สีป้อ ล่า
เสี้ยว เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก
อิทธิพลของพม่า
ในประวัติศาสตร์ไทใหญ่เต็มไปด้วยเรื่องราวสงคราม และ
ประวัติศาสตร์ระยะใกล้ก็ถูกพม่ากดไว้ จนการเรียน
ประวัติศาสตร์ของชาวไทใหญ่กลายเป็นวิชาต้องห้ามการเรียน
ประวัติศาสตร์ของชาวไทใหญ่เป็นเรื่องต้องห้ามตั้งแต่สมัย
อังกฤษปกครอง โดยไม่ยอมให้วิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชา
บังคับ เมื่อพม่ากลับมามีอำนาจเหนือดินแดนรัฐฉานจึงสืบทอด
เรื่องนี้ต่อไป ชาวไทใหญ่ต้องเรียนภาษาพม่า เรียนทุกวิชา
เป็นภาษาพม่า แม้ผู้ที่ไม่ได้โรงเรียน เข้าวัด แต่ระเบียบพิธี และ
พิธีกรรมต่างๆ เป็นแบบพม่า และใช้ภาษาพม่าทั้งหมด อิทธิพล
ทางวัฒนธรรมของพม่าในไทใหญ่จึงมีมาก ซึ่งเกี่ยวพันกับ
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ด้วย โดยอิทธิพล
ทางวัฒนธรรมของพม่ายังเป็นสิ่งสืบเนื่องจากทางการเมืองอีก
ด้วย กล่าวคือเมื่อพม่าเป็นใหญ่ขึ้นมาก็จะเกณฑ์ให้เจ้าฟ้าไท
ใหญ่ส่งลูกสาวและลูกชายไปเมืองหลวงพม่า เจ้าหญิงเจ้าชาย
เหล่านี้จึงได้รับวัฒนธรรมพม่ามาอย่างไม่รู้ตัว และนำกลับมา
เผยแพร่แก่ประชาชนไทใหญ่ในรูปแบบของ
ภาษา ดนตรี นาฏศิลป์ และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ เช่น
เกิดความนิยมว่า วรรณคดีที่ไพเราะซาบซึ้งควรมีคำพม่าผูก
ผสมผสานกับคำไท ความเป็นพม่าจึงครอบกรอบสังคมไทใหญ่
แหล่งอ้างอิง
http://impect.org/impect/showethnic.php?indigenous_id=5
ประมาณ 150,000 คน ส่วนเมืองสำคัญอื่นๆ ได้แก่ สีป้อ ล่า
เสี้ยว เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก
ประวัติศาสตร์ระยะใกล้ก็ถูกพม่ากดไว้ จนการเรียน
ประวัติศาสตร์ของชาวไทใหญ่กลายเป็นวิชาต้องห้ามการเรียน
ประวัติศาสตร์ของชาวไทใหญ่เป็นเรื่องต้องห้ามตั้งแต่สมัย
อังกฤษปกครอง โดยไม่ยอมให้วิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชา
บังคับ เมื่อพม่ากลับมามีอำนาจเหนือดินแดนรัฐฉานจึงสืบทอด
เรื่องนี้ต่อไป ชาวไทใหญ่ต้องเรียนภาษาพม่า เรียนทุกวิชา
เป็นภาษาพม่า แม้ผู้ที่ไม่ได้โรงเรียน เข้าวัด แต่ระเบียบพิธี และ
พิธีกรรมต่างๆ เป็นแบบพม่า และใช้ภาษาพม่าทั้งหมด อิทธิพล
ทางวัฒนธรรมของพม่าในไทใหญ่จึงมีมาก ซึ่งเกี่ยวพันกับ
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ด้วย โดยอิทธิพล
ทางวัฒนธรรมของพม่ายังเป็นสิ่งสืบเนื่องจากทางการเมืองอีก
ด้วย กล่าวคือเมื่อพม่าเป็นใหญ่ขึ้นมาก็จะเกณฑ์ให้เจ้าฟ้าไท
ใหญ่ส่งลูกสาวและลูกชายไปเมืองหลวงพม่า เจ้าหญิงเจ้าชาย
เหล่านี้จึงได้รับวัฒนธรรมพม่ามาอย่างไม่รู้ตัว และนำกลับมา
เผยแพร่แก่ประชาชนไทใหญ่ในรูปแบบของ
ภาษา ดนตรี นาฏศิลป์ และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ เช่น
เกิดความนิยมว่า วรรณคดีที่ไพเราะซาบซึ้งควรมีคำพม่าผูก
ผสมผสานกับคำไท ความเป็นพม่าจึงครอบกรอบสังคมไทใหญ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น